Pokémon GO : 10 เทคนิคเด็ด เริ่มต้นกับ Pokemon GO

สำหรับคนเริ่มเล่น Pokémon GO เชื่อว่าจะงงว่าควรเริ่มจากตรงไหนก่อน จะทำอะไรต่อดี ในที่นี้ขอสรุปสั้นๆ เหลือแค่ 10 ข้อใหญ่ว่าควรทำอะไรบ้างกับการเล่น โปเกมอนโก ครั้งแรกกันครับ แบบเชิงลึกค่อยคุยกันทีหลัง


1. เทคนิคจับปิกาจูเป็นตัวแรก


ทำได้ง่ายๆ มากสำหรับตัวใหม่ หลังเลือกตัวละครเสร็จเรียบร้อยแล้ว ไม่ต้องสนใจ 3 ตัวแรกที่ศาสตราจารย์ให้เลือก คือ เดินผ่านไปเลยครับ มันจะปรากฏตัวซ้ำอีกประมาณ 3 – 4 ครั้ง โดยจะเห็นปิกาจูปรากฏตัวมาให้จับเพิ่มเป็นตัวที่ 4 แล้วค่อยจัดการจับมัน

ส่วนคนพลาดไปแล้ว ไม่ต้องเสียใจครับ เพราะเกม Pokémon GO เวอร์ชั่นแรกไม่ค่อยได้ใช้โปเกมอนกันอยู่แล้ว (ยกเว้นจะรีบไปยึดยิม) เนื่องจากปิกาจูตัวแรก CP ต่ำมากและมีวิธีได้รับจากทางอื่นอีก อย่างการฟักไข่ หรือช่องทางอื่นในภายหลัง

2. ไอเทมในตัวเริ่มต้น เกม Pokemon Go


กดบอลตรงกลางแล้วเลือกเมนูขวา ITEMS (หรือ Slide ไปขวาที่บอลกลางจอ) เริ่มมาเราจะมีแค่ Poke Ball กับ Incense ติดตัว

  • Poke Ball ใช้ได้ในฉากต่อสู้เท่านั้น ถ้าบอลหมดต้องหามาเติมจึงจะจับโปเกมอนได้
  • Incense ใช้สำหรับล่อให้โปเกมอนมาหาเรา โดยปกติจะมาหาเราทุก 5 นาที แม้ไม่ต้องขยับตัวก็ตาม ใช้งานได้ 30 นาที เหมาะกับคนต้องทำงานแต่ยังพอ (แอบ) เล่นเกมได้ ถ้าหมดมีให้ซื้อใน Shop
  • Camera ไว้ถ่ายรูป ไม่มีอะไรพิเศษ แต่ถ้าถ่ายรูประหว่างเปิด AR ไว้
  • Egg Incubator แบบอินฟินิตี้ เอาไว้สำหรับฟักไข่ ใช้งานได้ไม่จำกัด (จะได้เพิ่มภายหลัง หรือ ซื้อใน Shop)

TIP : เทคนิคการใช้ Incense ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด คือ ควรเดินไปด้วย เพราะไอเทมนี้จะมีฟังก์ชันลับอย่างหนึ่ง คือ ทุกครั้งที่เดิน 200 เมตร ภายใน 1 นาทีขึ้นไป จะพบโปเกมอนเช่นกัน ซึ่งจะคุ้มยิ่งกว่าการกดใช้อยู่กับที่

ไอเทมอื่นๆ จะได้รับจากการ Level Up, Poke Stop หรือซื้อจาก Shops ที่สำคัญมี
  • Razz Berry ไอเทมจำเป็นสำหรับลดระดับความแข็งแกร่งโปเกมอนที่พบลง ทำให้มีโอกาสจับได้มากขึ้น
  • Lure Module ใช้กับ PokeStop มีผล 30 นาทีทำให้มอนสเตอร์ปรากฏตัวแถวนั้นมากขึ้น คนแถวนั้นจะได้รับผลของไอเทมนี้เช่นกัน (เหมาะกับเล่นกับเพื่อนเป็นกลุ่ม)

3. หา Poke Ball ฟรี ไม่เสียเงิน


การจับโปเกมอนเป็นพื้นฐานในการเพิ่ม EXP เลย แต่สังเกตจะเห็นว่า Poke Ball มีจำกัด แถมกดซื้อ 20 ลูกตั้ง 35 บาท แพงเกิน จะหาจากไหนกันล่ะ ? มีสองวิธีหลักๆ ที่ได้มาฟรี โดยไม่ต้องใช้ Cash
  • Level อัพตัวละคร ช่วงแรกจะได้บอลมาเยอะแถมเลเวลสูงจะได้บอลดีๆ ด้วย
  • หาที่ PokeStop ที่มีอยู่ตามแผนที่ ลองเดินหาดู อันนี้ต้องขยันเดินหน่อย โดยเฉพาะย่านชุมชนจะได้เยอะมาก แถมมีการอัพเดตสถานที่บ่อยครั้ง ประมาณ 5 นาที

อีกเทคนิคหนึ่ง คือ ถ้าขว้างพลาด แบบมั่นใจว่าพลาดชัวร์ สามารถรีบกดแตะบอลที่กลิ้วอยู่เพื่อเก็บมาได้ แต่ต้องทำก่อนบอลจะเปิดออกหรือหายไปจากจอ ระวังเผลอกดพลาดจนปาบอลพลาดอีกรอบด้วย


4. ตามหามอนสเตอร์ด้วยคำสั่ง Nearby (แม้ไม่มีรอยเท้า)


มุมขวาล่างของจอ จะบอกประเภทของโปเกมอนสที่มีโอกาสพบแถวนั้น แถมบางตัวไม่เคยมีในสมุดบันทึกเราด้วยซึ่งจะได้ถึง 500 XP แต่จะอยู่ตรงไหนก็ต้องสุ่มเดินกันหน่อยครับ

เมื่อก่อนจะมีรอยเท้าปรากฏในจอด้วยซึ่งถ้าจำนวนรอยเท้าน้อยกว่า 3 ก้าว แสดงว่ามีบางตัวอยู่ใกล้กับเรามาก แต่ระบบนี้ เพิ่งเอาออกไปก่อนเปิดในไทยนิดหน่อย ถึงกระนั้น Nearby ยังคงมีประโยชน์ที่บอกว่าแถวนั้นมีตัวอะไรที่เรายังขาดอยู่บ้าง

พวกโปเกมอนที่ซ่อนตัวอยู่ บางครั้งอาจเห็นเป็นเหมือนเศษหญ้าบนแผนที่ ต้องสังเกตกันนิดนึง


5. วิธีจับโปเกมอน ใน Pokemon GO


  • หลักๆ เบื้องต้น คือ โยนบอลกะให้วงกว้างหน่อย จะปาบอลลงวงกลมง่ายกว่า แต่ถ้าจังหวะที่วงกว้างแคบลง อาจได้ Nice, Great หรือ Excellent ยิ่งแคบมาก ยิ่งมีโอกาสได้โบนัสมาก ส่วนทิศทางบอลอาจเล็งให้ข้ามหัวโปเกมอนหรือตกใกล้ๆ ตัวพอดี
  • ควรปิด AR (ตรงมุมขวาบน) ถึงการใช้กล้องหลังจะทำให้ดูสนุกขึ้น แต่บ่อยครั้งทำให้เราตาลายมากกว่า อีกทั้ง AR ต้องใช้กล้องส่องให้ถูกตำแหน่ง ซึ่งเสี่ยงต่อการถูกเข้าใจผิดว่ากำลังแอบถ่ายก็ได้ จนอาจถึงขั้นเกิดอุบัติเหตุ
  • สีบ่งบอกระดับความยากของการจับ โดยไล่ตามลำดับ คือ เขียว เหลือง แดง
  • ทางซ้ายมีคำสั่งหนี แต่ไม่ค่อยจำเป็น เพราะถึงเป็นตัววงกลมแดงจับได้อยู่ดี (ยกเว้นไม่อยากเสี่ยงเพราะเปลืองบอลมาก บางครั้งไม่คุ้มกับ CP)

การจับโปเกมอน จะมีการดิ้น 3 ครั้งเสมอ ถ้าไม่หลุดก็สบายใจ Gotcha! แน่นอน

บ่อยครั้งโปเกมอนจะขยับตัวหรือกระโดด ทำให้การขว้างบอลยากขึ้น ควรจะจังหวะเล็กน้อยก่อนโยนบอล

TIP เพิ่มเติม
  • บอลไม่จำเป็นต้องโยนทันที สามารถลากไปตำแหน่งต่างๆ ได้ ถ้าไม่ชินกับการโยนจากล่างขึ้นบน ลองเปลี่ยนเป็นจากตรงกลางแล้วค่อยโยน
  • สามารถโยนบอลโค้ง หรือ หมุนบอลก่อนโยน (ใช้นิ้วกดค้างแล้วเลื่อนบอลขึ้น+ลงเร็วๆ) ซึ่งถ้าขว้างโดนจะได้แต้มมากขึ้น แต่การโยนจะยากขึ้น ไม่เหมาะกับคนบอลน้อยเพราะจะเสียบอลได้ง่าย

สิ่งที่ได้จากการจับโปเกมอนใน Pokemon GO คือ ค่าประสบการณ์ EXP, Stardust และ Candy จำนวนหนึ่ง


6. EXP ใน Pokemon GO

ค่าประสบการณ์ต่อสู้ใน Pokemon GO
  • จับโปเกมอนได้ +100 XP
  • จับโปเกมอนใหม่ได้ +500 XP

โบนัสในการจับ การได้ Nice, Great หรือ Excellent ขึ้นกับจังหวะของวงว่าใกล้ขอบสีขาวแค้ไหน (เหมือนเกมเต้น)
  • ขว้าง Curve Ball (โค้ง) +10 XP
  • ขว้างแบบ Nice +10 XP
  • ขว้างแบบ Great +50 XP
  • ขว้างแบบ Excellent +100 XP

โบนัส XP ทางอื่น
  • Check-in ที่ PokeStop +50 XP
  • สู้กับ Trainer ที่ยิม +100 XP
  • เอาชนะ Trainer ที่ยิมได้ +150 XP
  • ฟักไข่โปเกมอน +200 XP, +500 XP หรือ +1000 XP (ขึ้นกับระยะไข่ที่ฟัก)
  • Evolve โปเกมอน +500 XP

บางคนอาจจำได้ว่าเพิ่มเป็น 1000 XP เพราะมีการใช้งาน Lucky Eggs ที่เพิ่ม XP สองเท่าตัว


7. สิ่งที่ทำกับโปเกมอนได้หลังจับมา


สไลด์บอลกลางจอไปทางซ้าย (หรือกดบอล แล้วเลือกเมนูซ้าย) จะเข้ามาเลือกโปเกมอนได้ จะแสดงข้อมูลเรื่องชื่อและ Type ต่างๆ สามารถเปลี่ยนชื่อได้ด้วยโดยคลิกที่ปากกาหลังชื่อ

ในหน้าจอด้านล่างข้อมูลพวก Type นั้น จะมีจำนวน Stardust ทั้งหมดที่มีในตัวเรา กับ Candy ที่สามารถใช้ Evolve ตัวนั้นได้
  • Power Up : เป็นการเพิ่ม CP และ HP ให้โปเกมอน ใช้ Stardust และ Candy เป็นส่วนผสม
  • Evolve : วิวัฒนาโปเกมอนไปสู่ร่างต่อไป ใช้ Candy ที่เกี่ยวข้องจำนวนหนึ่ง หาได้จากการจับโปเกมอนประเภทเดียวกัน หรือ ส่ง Transfer ไปให้ด็อกเตอร์

ไม่แนะนำให้รีบ Power Up เพราะ Stardust หายากพอสมควรในช่วงแรก เก็บไว้สำหรับตัวที่ชอบจริงๆ ดีกว่า ส่วน Evolve ถือว่าเป็นเรื่องยากพอสมควร ควรเน้นเฉพาะตัวสำคัญ

กดเมนูขวาล่างสุดของจอ เราสามารถ Favorite หรือ Transfer ได้
  • Transfer : คำสั่งสำคัญ โดยส่งโปเกมอนไปให้ดร. จะได้รับของตอบแทนกลับมา ของสำคัญ คือ Candy สำหรับ Evolve ตัวเดียวกัน

8. หาของและโปเกมอน ให้แวะ PokéStop บ่อยๆ


แหล่งแจกของที่ไม่ควรพลาด อย่างที่เคยบอกไปว่าได้ PokeBall ฟรี ไม่เสียเงิน แต่มีเหตุผลอื่นอีก

ปกติจะมีการ Refresh ทุก 5 นาที เพียงแต่อาจต้องเดินห่างจากที่นั่นสักระยะแล้วกลับเข้าไปใหม่หรือจะยืนแช่แถวนั้นก็ได้

ข้อดีอีกอย่างของการอยู่ใกล้ คือ บางคนกดใช้ไอเทม Lure Device ด้วย จะเห็น PokeStop มีบางอย่างโรยอยู่ คนที่เข้าไปบริเวณนั้นมีสิทธิ์ได้พบโปเกมอนฟรีๆ โดยไม่ต้องเดินไปไหนไกล

สำหรับคนเปิดร้านค้าขายของ แถว PokeStop แนะนำให้เปิด Lure Device ด้วย คนเข้าร้านน่าจะเยอะ ส่วนคนที่ไม่หวังผลกำไร ลองไปนั่งแถวๆ นั้นแล้วใช้ Lure Device น่าจะทำให้ชาว Pokemon Go มารวมกลุ่มแถวนั้นได้เยอะ


9. การฟักไข่


บางครั้งเราจะได้ไข่จาก PokeStop หรือทางอื่น เราใช้ไอเทมสำหรับการฟักได้

วิธีฟัก คือ เดิน หรือ เคลื่อนที่ด้วยความเร็วระดับหนึ่ง (ที่ไม่เร็วมากแบบรถยนต์) จะทำให้ไข่สามารถฟักออกมาเป็นโปเกมอนได้ ยิ่งตัวเก่งๆ ต้องเดินไกลมากกว่าจะฟักได้


10. เลือกทีม ยึดยึม และต่อสู้


ตอนเลเวล 5 เมื่อคลิกที่ยิมบนแผนที่ (ห่างแค่ไหนก็ได้) จะเป็นการสมัครเข้าร่วมทีมจะยกเลิกก่อนก็ได้ แต่ถ้าจะเปลี่ยนทีมภายหลัง ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ผ่านเว็บไซต์ให้ดำเนินการให้

การเลือกทีม ไม่ส่งผลต่อการเล่นมากนัก จะเลือกทีมไหนก็สนุกได้เหมือนกัน เพียงแต่เราจะสู้กับทีมอื่นที่ยึดยิมได้เท่านั้น ส่วนทีมเดียวกันที่ยึดยิมได้ ถ้าเข้าไปหาจะได้ไอเทมแทน ลองถามเพื่อนดูก่อนก็ได้ว่าจะเลือกทีมไหน

ขั้นตอนการยึดยิม เราสามารถส่งโปเกมอนไปสู้ได้ รูปแบบการสู้จะต่างจากเกมโปเกมอน คือ คลิกรัวๆ แทน แต่สามารถโยกซ้ายขวาเพื่อหลบการโจมตีได้ ทั้งนี้ เราจะไม่เสียโปเกมอนในการแพ้

สำหรับคนที่ครองยิมได้ จะได้รับ 500 Stardust และ 10 Pokecoins ฟรีในทุก 21 ชั่วโมง สามารถพัฒนายิมได้ด้วย

การยึดยิมควรพิจารณาเรื่องแพ้ทางก่อน ซึ่งอ้างอิงตามซีรีส์ของโปเกมอนปัจจุบันมี 18 Type โดยจะมีชนะทาง (สีเขียว) แพ้ทาง (สีแดง) และสู้ไม่ได้เลย (กากบาท) ในภาพ ถึง CP ต่ำกว่าก็สามารถโค่นโปเกมอนที่แพ้ทางได้


ความจริงยังมีอีกหลายข้อ ขอคัดมาแค่ส่วนที่สำคัญก่อน ไว้จะคุยในโอกาสต่อไป

ที่มา : PhoneArena, IGN